บทความที่ได้รับการเผยแพร่ซ้ำจาก Medium Story โดย Matt Hunt เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2021 ในหัวข้อ ภาพสะท้อนจากเหตุการณ์การเลิกเหล้า 1000 วัน
การยืนหยัดให้เลิกเหล้าอย่างเด็ดขาดนั้นไม่ใช้เรื่องง่าย และไม่ใช่เรื่องจำเป็นต้องทำเช่นนั้นเสมอไป ผมบอกไม่ได้ว่าคุณเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณรู้สึกเหมือนกำลังดิ้นรนหาทางเลิกเหล้า หรือถ้าคุณกำลังคิดหาทางเลิกเหล้าเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคุณ ก็ขอให้อ่านต่อ
วัตถุประสงค์ของผมคือ แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกสำหรับคนที่กำลังเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตโดยไม่เสพติดเหล้า และไม่จำเป็นต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่วุ่นวาย
ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหา ผมขอแนะนำตัวเองสักเล็กน้อย
ผมชื่อ แมท (Matt) ผมได้เลิกจากเหล้าและยาเสพติดแล้ว 1005 วัน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมสูบบุหรี่ เสพยาแทบจะทุกขนิดเท่าที่จะคิดได้ และเกือบทั้งหมดจะเสพเพื่อสันทนาการ แต่ผมไม่เคยชอบมันจริง ๆ จัง ๆ ที่ผมชอบจริง ๆ คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตราบเท่าที่ไม่มีอุปสรรคที่จะดื่ม
ผมไม่ใช่ประเภทที่ดื่มเบียร์เพื่อเข้าสังคม เพราะว่าเบียร์ไม่เคยทำให้ผมเมา ความคิดของผมเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่เพียงแค่ดื่มสังสรรค์กับเพื่อนฝูงหรือเพื่อนร่วมงานเท่านั้น ถ้าผมจะดื่มก็ต้องดื่มให้เมาให้เร็วที่สุด และนั่นคือสิ่งที่ผมทำ
ผมใช้ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายเช่นนี้นับทศวรรษกับอาการพิษสุราเรื้อรังจนชีวิตการงานต้องล่มสลายและแทบจะเอาชีวิตไม่รอด ในที่สุด ผมไปเข้าร่วมโปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาและแอลกอฮอล์ที่เชียงใหม่ ที่ซึ่งผมได้เลิกดื่มเหล้าและรับการบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (CBT) เป็นครั้งแรก
ตั้งแต่เสร็จสิ้นการบำบัดแล้ว ผมได้ค้นพบเรื่องราวต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับการเลิกเหล้าและการรักษา รวมถึงการพบปะกับสมาคมอดเหล้า (AA), SMART Recovery การทำสมาธิ และการบำบัด
ปัจจุบันผมไม่ได้เข้าร่วม “โครงการเลิกเหล้า” ใด ๆ และผมก็ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการติดเหล้า (เช่น ความอยากเหล้า) สุขภาพของผมก็ได้ฟื้นฟูสมบูรณ์ และผมทำมากกว่าสิ่งที่ผมรับรู้เท่าที่จะทำได้
การสรุปเรื่องการเลิกเหล้าในบทความเดียวนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อฉลองการเลิกเหล้ากว่า 1000 วัน อันเป็นเหตุการณ์สำคัญสำหรับชีวิตผม (ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างล่างนี้) ผมอยากจะแบ่งปันสิ่งที่ผมทำเพื่อใช้ชีวิตอย่างมีสติที่สุด
ต่อไปนี้คือ เคล็ดลับ 5 ข้อในการเลิกเหล้าและใช้ชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพาแอลกอฮอล์อย่างแท้จริง
1. ระบุสิ่งเร้าของคุณ ทำความรู้จักและอยู่อย่างสงบร่วมกับมัน
หาเวลาในการระบุว่าคนใด สถานที่ใด และสิ่งของใดที่ทำให้คุณรู้สึกอยากดื่ม ผมรู้ว่ามันฟังดูง่าย แต่มันจะต้องใช้เวลาและการไตร่ตรองเพื่อเรียนรู้ว่าสถานการณ์ใดกันแน่ที่ทำให้คุณอยากดื่มอีก
ผมได้รับแรงกระตุ้นอย่างต่อเนื่องจากความสำเร็จมากกว่าความล้มเหลว ความคิดที่อยากได้งานใหม่หรือได้รับการเสนอโอกาสพิเศษที่ผมเคยทำงานให้จะเป็นตัวผลักดันให้ผมเข้าใกล้สู่การดื่มเพื่อความปิติยินดีมากกว่าดื่มเพราะความผิดหวังหรือเรื่องร้าย ใด ๆ ที่ผมเคยมี
ในช่วงกว่า 1000 วันที่ผ่านมา ผมได้ยินเรื่องราวอันน่าสลดไม่น้อยที่ส่งผลให้ผมต้องหันกลับไปดื่มเหมือนเดิมเช่นกัน
ไม่ว่าคุณจะถูกกระตุ้นด้วยอะไรก็ตาม ทางที่ดีควรจะใช้เวลาและสำรวจตัวเอง ความรู้สึกของตัวเองและสัญชาติญาณของคุณเพื่อระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้คืออะไรกันแน่ เมื่อคุณได้ระบุสิ่งเร้าให้ดื่มแอลกอฮอล์ได้แล้วการจัดการกับการดื่มก็จะง่ายขึ้นเยอะ คุณไม่จำเป็นต้องไปแก้ไขเช่นกัน บางครั้งเพียงแค่รู้ว่าสิ่งเร้านั้นคืออะไรก็พอและก็ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขด้วยการแยกจากมัน
2. ตั้ง (และฉลอง) เป้าหมาย
เมื่อคุณอยู่ในภาวะเสพติดสิ่งใด ๆ รวมทั้งแอลกอฮอล์ การผ่านไปแต่ละวันโดยไม่หวนกลับไปเสพอีกนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากทั้งด้านจิตใจและร่างกาย การทำให้ผ่านไปได้เพียงวันเดียวโดยไม่หวนกลับไปเสพก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะต้องฉลองและคุณก็ควรที่จะฉลองด้วย
ในช่วงต้นของการอดเหล้า ผมจดบันทึกด้วยปากกาและกระดาษซึ่งเป็นการให้รางวัลที่เห็นได้ชัดเจนเนื่องจากความวุ่นวายในเรื่องจุกจิกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดผมก็เริ่มให้รางวัลแก่ตัวเองด้วยวิธีอื่นในแต่ละเดือน
ในช่วงเวลาหนึ่ง ผมจะสร้างชุดต่อ LEGO ต่อเนื่องทุกครั้งที่ผมบรรลุเป้าหมายใหม่ในแต่ละเดือน
ตอนนี้แม้จะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม แต่ผมยังคงขาดเป้าหมายที่สำคัญ ดังนั้น ผมแค่สร้างมันขึ้นมาพร้อมกับเดินหน้าต่อไป ดังเช่นโพสต์นี้ เป็นต้น เป็นการฉลองเป้าหมายของผมที่ทำได้สำเร็จ 1000 วัน ผมมีความสุขอย่างเหลือล้นที่ได้แบ่งปันประสบการณ์การงดเหล้ากับคนอื่น ๆ ผมจึงไม่เห็นวิธีไหนที่จะฉลองความสำเร็จของผมดีไปกว่าวิธีนี้อีกแล้ว
3. อยู่ท่ามกลางผู้คนที่อดเหล้าเช่นกัน
การมีเพื่อนที่อดเหล้ามีความสำคัญต่อการอดเหล้าในปัจจุบันของคุณ เช่นเดียวกับความสามารถในการใช้ชีวิตโดยไม่แวะข้องกับเหล้าอีก
คุณไม่จำเป็นต้องตัดทุกคนที่ยังคงดื่มเหล้าออกจากชีวิตคุณ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณคิดจะแยกตัวออกจากสภาพแวดล้อมเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายถ้าพวกเขายังคงยืนหยัดที่จะดื่มต่อไป
ผมเคยคิดว่าผมเป็นบุคคลคนเดียวในห้อง ในงานปาร์ตี้ หรือที่ไหนก็ตาม ที่อดเหล้า แต่มันพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง เมื่อผมเริ่มที่จะใช้ชีวิตโดยไม่ดื่มเหล้าอีก คนที่อดเหล้าไปแล้วอย่างเด็ดขาดต่างก็เข้ามาหาผม หรือผมก็ไปหาพวกเขา
เมื่อเวลาผ่านไป การอดเหล้าในขณะที่คุณอยู่ท่ามกลางคนอื่น ๆ จะทำให้คุณสร้างเครือข่ายที่ให้กำลังใจซื่งกันและกันและโดยส่วนใหญ่แล้วจะเข้าใจสิ่งที่คุณเป็นในอดีต สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หรืออาจจะถึงอนาคตด้วย ด้วยการคบหาเพื่อนที่ถูกต้อง ชีวิตก็ง่ายขึ้น
4. แบ่งปันความรู้สึกของคุณ
การบำบัดด้วยการพูดคุยเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการอดเหล้าของผม การพูดถึงความรู้สึกของผมเกี่ยวกับสิ่งที่ผมทำในอดีตและที่กำลังเกิดขึ้นกับผมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผมที่จะใช้ชีวิตโดยอดเหล้า
การแบ่งปันความรู้สึกของคุณไม่จำเป็นต้องเคอะเขินหรืออึดอัดเสมอ คุณอาจจดบันทึกหรือแม้กระทั่งพูดคุยกับตัวเองเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในใจ ความรู้สึกในตอนนี้และอะไรที่นำไปสู่สิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อเวลาผ่านไปเนื่องจากมันจะทำให้คุณเข้าใจตัวเองในอดีตและปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น
โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบที่จะย้อนกลับไปอ่านความคิดของผมที่ได้จดบันทึกไว้จากการอดเหล้าในช่วงแรก ๆ มันทำให้ผมได้มองย้อนกลับไปในสิ่งที่ผมเคยดิ้นรนต่อสู้ ซึ่งทำให้ผมมั่นคงในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันในฐานะคนที่อดเหล้า และยังช่วยให้ผมรู้สึกปลื้มใจกับสิ่งที่ผมสามารถทำสำเร็จจริง ๆ แทนที่จะจดจ่ออยู่กับความยากลำบากในปัจจุบันของตัวเอง
ถ้าคุณมีโอกาส และ/หรือมีเครือข่าย ขอให้พูดคุยกับคนอื่น ๆ เกี่ยวกับการอดเหล้า สิ่งที่คุณต้องเผชิญและสิ่งที่คุณคิดว่าคุณต้องการ บทเรียนที่สำคัญที่สุดมักจะเป็นการเรียนรู้ผ่านการรับฟังประสบการณ์ของผู้คนที่อดเหล้าคนอื่น ๆ
ขอให้จำไว้ว่าไม่มีใคร (แม้แต่คนที่อดเหล้ามาทั้งชีวิต) สามารถบอกคุณได้จริง ๆ ว่าคุณมีปัญหาหรือไม่ แต่คนส่วนใหญ่สามารถบอกคุณได้ว่าพวกเขารู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาต้องแก้ไขเรื่องใดที่พวกเขาประสบอยู่
5. จำไว้ว่าคุณกำลังเรียนรู้การดำรงชีวิต ความรู้สึก การเป็นอยู่ในวิถีใหม่ ขอให้สนุกกับการทำสิ่งต่าง ๆ ซ้ำอีก
การอดเหล้าทำให้คุณมีโลกทัศน์ใหม่
สารที่คุณเคยเสพจะไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่คุณรู้สึกจากการอดเหล้า ดังนั้น สิ่งที่คุณสัมผัส รู้สึก มองเห็นและกระทำส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องใหม่สำหรับคุณ และไม่ควรให้ใครมาทำให้ความคิดคุณไขว้เขว
มันเป็นเรื่องปกติที่คุณจะกลัว ตกใจ และตื่นเต้นสุดขีดกับสิ่งที่คนอื่นคิดว่าเป็นเรื่องปกติหรือทำให้พวกเขาสับสนมึนงง เพราะพวกเขาบอกว่าคุณเคยประสบเรื่องนี้มาก่อน มันเป็นเรื่องใหม่สำหรับคุณ ดังนั้นคุณจึงควรยอมรับมัน
คุณอาจเคยไปสถานที่ และ/หรือ มีประสบการณ์อย่างโชกโชนในอดีต ถึงกระนั้นก็ตาม เมื่อคุณไปที่นั่นและสัมผัสกับมันอีกครั้งด้วยสติ คุณจะได้รับประสบการณ์ “ครั้งแรก” เป็นครั้งที่สองในสถานที่นั้นหรือกับผู้คนเหล่านั้น และผมรับประกันได้ว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิมเสมอ มีสิ่งที่ผมได้ “ทำซ้ำ” นับจำนวนไม่ถ้วนในระหว่างอดเหล้า ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับไปแล้ว ผมรู้ว่าผมไม่เคยมีความสุขอย่างแท้จริงเมื่อผมไม่ได้มีจิตใจที่ปลอดโปร่ง
สิ่งนี่สามารถดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ความสุขจากการงดเหล้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับชีวิตผม ผมได้งดเหล้ามาแล้วกว่า 1000 วัน และในช่วงพันกว่าวันนี้ ผมได้ทำสิ่งต่าง ๆ ที่ผมชอบมากกว่า 1000 เรื่อง
ถ้าคุณมาถึงจุดนี้และอยากจะอ่านโพสต์ของผมที่ได้สะท้อนประสบการณ์การอดเหล้าตลอดสี่ปี คุณสามารถอ่านได้ที่นี่
หากต้องการติดต่อกับผมโดยตรง สามารถส่งอีเมลถึงผมผ่านแบบฟอร์มติดต่อได้